หาทางออกยากกว่าเขาวงกต ก็ ‘เฟรนด์โซน’ นี่ละ
สีหราช เกือบจะคิดว่าชาตินี้ทั้งชาติ เขาคงผูกความสัมพันธ์กับ ปานชีวา ในฐานะเพื่อนซี้ไปจนร่างกายแห้งเหี่ยวเป็นผุยผง
แต่แล้วสวรรค์ก็เข้าข้าง มีเหตุให้ปุบปับรับโชค เปลี่ยนความสัมพันธ์จากเพื่อนสนิทไปยังสถานะที่ไม่คาดฝัน
ก็บอกแล้วไงว่า เบื่อแล้ว ‘เฟรนด์โซน’ อยากย้ายไปอยู่ใน ‘แฟนโซน’ ดูบ้าง มันจะยากสักแค่ไหนกันเชียว กับอีแค่จีบเพื่อนตัวเองเนี่ย
“ชอบของแปลกเหรอ”
“ป่านไม่ได้แปลก ในสายตาเราป่านน่ารักจะตาย คุยด้วยก็เพลิน ทำอาหารก็อร่อย แกล้งก็สนุก เสียก็แต่ซื่อบื้อมากไปหน่อย”
ทีแรกปานชีวาก็ยิ้มอยู่ดีๆ แต่ข้อหลังฟังแล้วมันชักจะยังไงๆ อยู่นะ
“ซื่อบื้อมากจริงๆ” สีหราชยังย้ำไม่เลิก “ถ้าเราเป็นป่านแล้วมีผู้ชายเบ้าหน้าฟ้าประทานอยู่ใกล้ตัวขนาดนี้ เราไม่รอให้เขามาชอบหรอก เป็นฝ่ายจีบก่อนด้วยซ้ำ แต่ป่านนี่อะไร ไม่สนใจไม่พอ ยังแทบจะผลักไสให้คนอื่นอีก”
“ก็ตอนนั้นเราไม่ทันคิดอะไร แล้วเรากับสิงห์ก็เป็นเพื่อนกันด้วย”
“เพื่อนชอบเพื่อนก็ได้ป้ะวะ”
“อือ ก็ได้แหละ”
“แล้วชอบป้ะ” สีหราชยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นอีก ใกล้จนปลายจมูกถูไถอยู่กับพวงแก้มแดงระเรื่อของปานชีวา
“ก็…นิดหนึ่ง”
“นิดเดียวเองเหรอ” ชายหนุ่มทำสุ้มเสียงคล้ายกับว่ายังไม่ค่อยพอใจ “แต่เราอยากให้ป่านชอบมากๆ เลยอะ ชอบเรามากๆ”
ปานชีวาเอียงหน้าหลบปลายจมูกของเขา แต่สีหราชแทบจะกอดเธอไว้แบบนี้ เธอจะหนีเขาไปไหนได้พ้น
“มันก็ต้องค่อยๆ เพิ่มเลเวลไหมล่ะ อยู่ๆ จะมาปุบปับเลยเหรอ”
“ปุบปับเลยก็ได้ เราไม่ถือ”
“โลภ” ปานชีวาว่าเขา คนอะไร…ได้คืบจะเอาศอก
“ก็โลภจริง ยอมรับ”