เมธัส รู้สึกเหมือนโดนหินที่อังไฟร้อนๆ ซึ่งประทับคำว่า “อ้ายซาตาน” มาจี้ลงบนหน้าผากจนเกิดเป็นแผลถาวร เมื่อรับรู้ความจริงว่า สตรีที่เคยเป็นดังดวงใจ และเคยรังเกียจชิงชังทำร้ายทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีนั้น คือผู้บริสุทธิ์ เมธัสพยายามแก้ไขและเรียกเอาความรู้สึกดีๆ ในวันเก่าก่อนกลับคืนมา แต่ทว่าทุกอย่างมันกลับสายไปเสียแล้ว เมื่อเขาคิดจะแก้ตัว แต่หล่อนกลับวิ่งหนีหาย
ภารกิจตามล่าคว้าหัวใจจึงเกิดขึ้น แต่ทว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด เมื่อคนที่เป็นดังดวงใจของเขานั้นกลับเป็นดังนางในฝันของหนุ่มๆ หลายคน และเมธัสคงจะเย่อหยิ่งผยองพองขนได้ดังเดิมหรอก ถ้าหากว่าภรรยาที่ไม่เหลือเยื่อใยแถมยังเชิดใส่เขาตลอดเวลานั้นจะไม่มีหนุ่มที่เลิศเลอเพอร์เฟ็กต์ ซึ่งไม่ต่างจากคุณสมบัติอันโดดเด่นของเขาเลย เทียววนเวียนมาขอความรักกันไม่ขาดสาย แถมแม่ตัวดีก็ยังทำท่าว่ากำลังจะพิจารณาบรรดาหนุ่มๆ เหล่านั้นเสียด้วยสิ
สุดท้ายเมธัสเลยต้องยอมลงสนามแข่งเพื่อจะเอาหัวใจของเมียตัวเองกลับมา แต่ว่ามันต้องเป็นการช่วงชิงในรูปแบบของเขานะ จะให้คอยตามจีบตามตะล่อมเหมือนคนอื่นน่ะหรือ ไม่มีวัน! และสิ่งที่สำคัญกว่าอะไรทั้งหมดนั่นก็คือ หัวใจของฟารีดาจะเป็นของใครอื่นอีกไม่ได้ทั้งนั้น เพราะว่ามันต้องอาญาจากหัวใจเขา และคงค้างสถานะไว้ให้หล่อนเป็นหนี้รักกันไปจนชั่วนิรันดร์
“ปล่อยเขานะ ออกไป ปล่อย คนบ้า ซาตาน ไอ้โรคจิต ปล่อยเดี๋ยวนี้ ออกไปให้พ้น ฉันจะหย่า ได้ยินไหมว่าฉันจะหย่า!”
ฟารีดากล่าวไปดิ้นไป ความกลัวพุ่งขึ้นจับขั้วหัวใจ สั่นสะท้านไปทั้งร่างเมื่อเสียงของเมธัสตะเบ็งแข่งกับเธอบ้าง
“ไม่! ฤทธิ์มากนักใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นมานี่เลย”
เมธัสกล่าวได้เท่านั้นก็รัดร่างฟารีดาเข้าหาตัว หญิงสาวเจ็บจนกระดูกแทบแหลก จะดิ้นหนีก็ไม่ได้เพราะถูกเขาล็อกเอาไว้อย่างแน่นหนา แล้วก็ต้องตกใจจนแทบช็อกเมื่อจู่ๆ เขาก็ลากเธอไปยังตู้เสื้อผ้า ฟารีดาร้องวี้ดอย่างตระหนก เมื่อเขาเปิดมันออก แล้วดึงเนกไทติดมือมาด้วยเส้นหนึ่ง
“นั่นจะทำอะไรน่ะ กรี๊ด! ปล่อยนะ”
ฟารีดาประท้วงอย่างหวาดกลัว กำปั้นน้อยๆ พยายามทุบร่างหนาที่หิ้วเธอด้วยมือเพียงข้างเดียว ได้ยินเสียงเขาคำรามฮึ่มๆ ร่างระหงสะดุ้งเมื่อเมธัสฟาดมือลงมาที่สะโพกงอนงามเป็นการลงโทษ ที่คอยแต่จะทุบเขาดะไปหมด
“กรี๊ด! มาตีฟางทำไม ฟางจะฟ้องคุณแม่”
ฟารีดาประท้วงไปแต่ก็ยังไม่เลิกดิ้นหนีทุบตีเขา ได้ยินเสียงคนที่รื้อค้นวุ่นวายในตู้เสื้อผ้าเถียงกลับมาบ้าง
“อ้าว...ก็มาทุบทำไม ถ้าไม่อยากถูกตีก็อยู่เฉยๆ สิ”
“ไม่! แล้วพี่เมธคิดจะทำอะไรฟางล่ะ จะค้นของในตู้หาอะไรฮ้า!”
ฟารีดาถามไปก็ไม่ได้คำตอบอะไร แล้วก็ต้องหน้าเหย เมื่อเมธัสวางเธอลง จัดการรวบสองมือหญิงสาวอย่างฉับไวจากนั้นก็เอาเนกไทเส้นที่รื้อค้นมาได้เมื่อครู่นี้มัดฟารีดาอย่างแน่นหนา พอเสร็จแล้วจึงได้ปล่อย ยืนกอดอกมองผลงานตนเองยิ้มๆ ฟารีดามองพันธนาการในมือ แล้วจ้องเขานัยน์ตาวาวโรจน์
“พี่เมธทำอย่างนี้ไม่ได้นะ!” ประท้วงออกไปอย่างขัดใจ กระทืบเท้าเร่าๆ สุดท้ายก็ตัดสินใจตะโกนออกไป
“คุณแม่...อุ๊บ!”