ประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบอันดับต้นๆ ของโลกอย่างมีดีส เพิ่งเปิดประเทศต้อนรับนักลงทุน เป็นโอกาสอันดีที่ คุณหนูอลิชา ทายาทร้านขายเพชรพลอยย่านพาหุรัดจะหอบอัญมณีสวยๆ ไปโกยเงินจากมหาเศรษฐี แต่เธอเป็นแม่ค้าสวยๆ อยู่ดีๆ ก็ถูกลักพาตัวไปโผล่กลางทะเลทรายด้วยฝีมือโจรเถื่อนถ่อย
ไม่นะ! เธอยังสวยยังซิง จะต้องเอาชีวิตมาทิ้งเพราะถูกอุ้มฆ่า หมวยรับไม่ได้ หมวยจึงแผลงฤทธิ์ใส่ ด่าไฟแลบแบบไม่ซ้ำคำ ด่าให้โจรเถื่อนจดจำไปตลอดชีวิต
อลิชามัวแต่หลับหูหลับตาด่า จึงไม่รู้ว่า แท้จริงแล้วโจรเถื่อนที่จับเธอพาดบ่าแล้วฟาดก้นไม่ยั้ง คือ เจ้าชายชารีฟ อัล มีดีส เชื้อพระวงศ์ระดับสูงที่กำลังหลงใหลในความขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะ และเคลิบเคลิ้มกับเสียงด่าอันไพเราะจับใจของเธอ!
“ถ้าสัญญาว่าจะไม่หนี ฉันจะแก้มัดที่มือให้ ตกลงไหม”
“ก็ได้”
“สัญญาไหม”
“โอย จะพูดอีกนานไหม ฉันจะคอแห้งตายอยู่แล้ว”
ทันทีที่เป็นอิสระ เธอก็ประคองถ้วยน้ำชาหวานๆ ขึ้นมาดื่มอย่างกระหาย ชารสหวานชุ่มคอเย็นฉ่ำจนเธอรู้สึกเหมือนเกิดใหม่ ก่อนจะสังเกตว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเปิดเปลือยท่อนบนโดยไม่ยี่หระ อลิชาหน้าตาบูดบึ้ง แต่ไม่กล้ามองผู้ชายตัวใหญ่ล่ำที่นั่งอยู่ตรงหน้าแบบตรงๆ
“ทำไมต้องถอดเสื้อ”
“ไม่ต้องทำหน้าเหมือนนางเอกในนิยายน้ำเน่า บอกไว้ก่อนนะ ถ้าโลกไม่มีผู้หญิงเหลืออยู่สักคน ฉันถึงจะเลือกผู้หญิงอย่างเธอ”
‘ผู้ชายอะไร้ปากคอน่ารักจริง’
“ถามฉันก่อนเหอะว่าถ้าถึงตอนนั้นฉันจะเลือกคุณหรือเปล่า ไอ้คนหลงตัวเอง” ร่างบางเช็ดน้ำตาลวกๆ ก่อนจะหันหลังให้ด้วยความโกรธ
“ไม่กินหรือไง”
“กินสิ” อลิชาป้อนแป้งนานเข้าปาก กินไปได้ครึ่งแผ่นก็ไม่ไหวเพราะฝืดคอ แถมโยเกิร์ตสีขาวก็เปรี้ยวปรี๊ด ชารีฟเท้าแขนดูแม่สาวหน้าหมวยที่กินไปทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ไป เขาจึงสั่งอาหารจานใหม่มาให้ คราวนี้เธอกินเรียบ อลิชาหยิบเนื้อย่างขึ้นมากินช้าๆ และรอเวลาให้คายร้อน ก่อนจะกินคู่กับผักสดอย่างเอร็ดอร่อย ชารีฟจึงยกเนื้อทั้งหมดให้
“อร่อยจัง นี่เนื้ออะไรเหรอ”
“เนื้อกิ้งก่า โชคดีที่เจอตัวใหญ่ ไม่นึกว่าเธอจะชอบ”