คาร์ลทอร์นิค โซเวล์ลาส อภิมหาเศรษฐีเจ้าของแบรนด์เหล้ายี่ห้อดังระดับโลก เขาเป็นนักธุรกิจผู้เฉียบขาดและบุรุษหนุ่มที่มีความหล่อเหลาเฉียบคม ผู้มีความแยบยลในการหิ้วสาวสวยขึ้นเตียงมาทุกเชื้อชาติ ยกเว้นไว้เพียงหญิงสาวชาวไทยที่ชายหนุ่มไม่ขอเฉียดใกล้ แต่ก็เห็นจริงอย่างโบราณว่า เกลียดอย่างใดมักจะได้อย่างนั้น เมื่อเขาตามไล่ล่าหัวขโมยที่กล้ามาล้วงคองูเห่าถึงที่ และแทนที่จะจับโจรฉกรรจ์มาได้ ชายหนุ่มกลับจับตัวสาวน้อยหุ่นกะทัดรัดที่เขย่าอารมณ์ดิบเถื่อนในซอกลึกของหัวใจยิ่งนักคาร์ลทอร์นิคไม่รีรอที่จะพิพากษาโทษทัณฑ์กักขังหล่อนไว้บนเตียงแบบไม่ต้องให้เห็นเดือนเห็นตะวัน ยิ่งห้ามปรามต่อต้านเขาเพียงไร เขายิ่งต้องรีบเร่งผลิตลูกออกมาเพื่อฉุดรั้งหล่อนให้ไปไหนไม่รอดเสียเลย!
เพราะการสูญเสียมารดา ราชาวดี แม็กฮอร์คทัสช์ จึงต้องออกตามหาบิดาแท้ๆ ที่ทิ้งหล่อนไปร่วมยี่สิบปี แต่เพียงแค่เหยียบย่างเข้าสู่ประเทศที่ไม่เคยคุ้น วิบากกรรมอันเลวร้ายก็วิ่งชนโครม เมื่อต้องมาถูกมหาเศรษฐีหนุ่มหล่ออย่าง คาร์ลทอร์นิค โซเวล์ลาส ยัดเยียดข้อหาหัวขโมยให้โดยไม่คิดจะฟังคำแก้ต่างใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อคำปฏิเสธไร้ผล การก้มหน้ายอมรับเท่านั้นที่ราชาวดีจะทำเพื่อผ่อนปรนโทษหนักจากเขาได้ หล่อนยอมลดเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเองมาเป็นเพียงทาสรองรับอารมณ์ของเขาโดยไม่ปริปากคัดค้าน แม้แต่ในเวลาที่เขาจ้องจะจูบ จะจับ สัมผัสร่างกายตลอดทั้งเรือนร่าง คำทักท้วงของหล่อนก็ไม่เป็นผลเลยสักครา!
‘ว้าย! นี่เขาเป็นแวมไพร์หรืออย่างไร ถึงได้โผล่มายืนอยู่ข้างหลังเราโดยไม่ทันได้ตั้งตัว’
ราชาวดีรีบถอยห่างโดยพลัน แต่ก็ช้าไปกว่าคนมือไวซึ่งรั้งเอาเอวไปกอดไว้แน่น การดิ้นให้หลุดช่างเป็นเรื่องที่ยากเสียเหลือเกิน จึงได้แต่ยืนนิ่งให้เขากอดด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ แก้มก็ร้อนเอาๆ ราวกับโดนไฟอัง
“ปล่อยนะ!” ราชาวดีพยายามดิ้นแล้ว แต่พละกำลังช่างมีน้อยนิด
“ไม่รู้ว่าพักนี้เกิดอะไรขึ้น ผมอยากกอดคุณ อยากหอมแก้ม แล้วก็อยากทำอะไรอย่างที่ใจต้องการ”
“คุณคงไม่ได้หมายถึงเรื่องบนเตียงหรอกใช่ไหมคะ”
“แปลกนะ! เพราะผมกำลังนึกถึงเรื่องนั้นอยู่พอดี”
ดวงตาเบิกกว้างกว่าเคย หัวใจเต้นถี่แรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาเอี้ยวหน้ามองมาจึงเสหลบอย่างขัดเขิน ทำไมหล่อนถึงไม่กล้าปฏิเสธเขาได้เต็มคำอย่างเคย หรือว่าลึกๆ แล้วตอนนี้ก็ต้องการเขาเช่นกัน
‘คุณพระ! เราอยากได้เขาเป็นสามีเสียแล้วสิ’