พชร เดินทางมารับมรดกบ้านหลังใหญ่ที่คุณย่าทิ้งไว้ให้ทายาทเพียงหนึ่งเดียว ที่ริมรั้วใต้ต้นชมพู่เก่าแก่ปรากฏเด็กน้อยตัวอ้วนกลมกำลังแหงนคอตั้งบ่า ส่งเสียงใสๆ ขอเก็บลูกชมพู่ผลไม้สุดโปรดของเขา
เขานึกเอ็นดูสาวน้อยพุงย้อยตาหยี ที่มีชื่อว่า ‘ขนมชั้น’
แล้วก็เริ่มแปลกใจที่เบ้าหน้าแม่หนูคนนี้เหมือนเขาอย่างกับโคลนนิ่งมา…
ยิ่งน่าสงสัยไปอีก เมื่อเสียงเจื้อยแจ้วแนะนำตัวว่าเป็นลูกสาวของแม่ วราลี
แล้วสิ่งที่คาใจก็คลี่คลาย เมื่อเขาเห็นคนรักเก่ากำลังยืนถือก้านมะยมในมือมองมาตาเขม็ง!
“คุณลุงเจ้าที่ขา ชมพู่มีตั้งเยอะ แล้วคุณลุงเจ้าที่จะกินชมพู่คนเดียวหมดเหรอคะ”
“เมื่อกี้เรียกฉันว่าลุงก็ตั้งใจจะให้ชมพู่หนูลูกหนึ่ง แต่ยังหาว่าฉันเป็นลุงเจ้าที่อีก…” เขากอดอกแล้วแกล้งถอนใจ “เฮ้อ…แบบนี้เอาไปครึ่งลูกก็พอมั้ง” ดวงตาสีเข้มชำเลืองมองแล้วแอบยิ้มเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กหน้าซีดทันที
พชรใช้มือสองข้างกดชมพู่ลูกโตแก่จัดเพื่อแบ่งเป็นสองซีกเท่าๆ กันจากนั้นก็ส่งชมพู่ซีกหนึ่งให้สาวน้อยตรงหน้า
“หวาน กรอบ” พชรยิ้มมุมปากพลางลอบสังเกตสีหน้าเศร้าไปถนัดตาแล้วกลั้นขำ “รับไปสิ”
ขนมชั้นเหลือบตามองชมพู่ซีกเดียวอย่างชั่งใจ สายตายายตัวแสบมองส่วนแบ่งราวกับว่าเขาเป็นคนใจร้าย ขี้งกหวงของ ชมพู่ออกจะดกเต็มต้นแต่แบ่งให้เธอแค่ครึ่งลูก
แต่พอเจ้าของชมพู่เอ่ยขึ้นว่า… “เอาซีกนี้ไปชิมดูก่อน ถ้าหนูชอบ ฉันจะเก็บให้เต็มถุงเลย”
เพียงเท่านั้น แม่หนูขนมชั้นจอมแก่นประจำซอยแปด ก็เปลี่ยนท่าที ส่งรอยยิ้มหวานปนเสียงหัวเราะแหะๆ ให้ขณะมองหน้าคุณลุงเจ้าที่ที่ตัวเองเพิ่งคิดว่า ‘ขี้งก’ ไปเมื่อตะกี้
“ขอบคุณค่ะ พี่ชายใจดี”
“พอบอกจะเก็บชมพู่ให้เต็มถุง ฉันหนุ่มขึ้นมาทันทีเลยนะ เรานี่มันแสบเกินอายุจริงๆ แต่เรียกพี่ก็ดีเหมือนกัน ฉันยังไม่แก่ อืม…แต่จะว่าไปแล้วก็คงน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อแม่หนูนั่นแหละมั้ง อีกอย่าง ฉันไม่ใช่เจ้าที่ แค่เป็นเจ้าของบ้านคนใหม่ แล้วก็เป็นเจ้าของชมพู่ต้นนี้ด้วย”
“รับทราบค่ะ วันหลังขนมชั้นจะไม่ขอชมพู่กับเจ้าที่ จะมาขอกับพี่ชายนะคะ”
‘ลูกใครวะ เป็นงานจริงๆ’