ถังแตกแล้วไง... พรพระพราย ท้อเสียที่ไหน เธอยอมปากกัดตีนถีบ ทำทุกอย่างเพื่อที่จะไม่ต้องแต่งงานล้างหนี้ให้ครอบครัว
งานพี่เลี้ยงเด็กแฝด...โอ๊ย สบายมาก ยิ่งเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี เงินก็ดี สวัสดิการก็งาม พรพระพายหวังได้ค่าตอบแทนเป็นกอบเป็นกำกลับเมืองไทยอย่างสบายใจ ถ้า แบรดลีย์ อาเชอร์ นายจ้างของเธอไม่มาแอบอ้างว่า เธอนั่นแหละคือแม่ที่แท้จริงของเด็กชายฝาแฝด
เอาหัวเป็นประกันได้เลยว่า เธอไม่เคยความจำเสื่อมจนจำไม่ได้ว่าเคยเป็นเมียมหาเศรษฐีอย่างแน่นอน แต่เดี๋ยวนะ! หรือว่าการบริจาคไข่เมื่อหลายปีก่อนจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้!
“ยิ้มอะไร” ดวงตาคู่หวานจ้องเขม็งขณะรอฟังคำตอบ
“ไม่บอก ความลับสวรรค์”
พรพระพายทำปากขมุบขมิบ ก่อนจะฉุกคิดอะไรออก เสียงเด็กที่เธอได้ยินในร้าน
“คุณคงตามฉันมาตั้งแต่ร้านไอศกรีมสินะ เสียงเด็กในร้านคงเป็นพวกลูกๆ คุณ เขามาด้วยใช่ไหม”
“ใช่ จอร์แดนกับจัสตินมาด้วย พวกเขาอยากเจอแม่ เลยพามาตามหาแม่” น้ำเสียงของแบรดลีย์กระตือรือร้นขึ้นทันที แล้วจิ้มนิ้วชี้ไปที่อก
“คุณมาตามหาเมียเหรอ” เขาพยักหน้า “เจอหรือยังล่ะ”
ใบหน้าคล้ามคมหล่อเหลามากด้วยเสน่ห์พยักหงึกๆ “เจอแล้ว นั่งมองหน้ากันอยู่นี่ไง”
พรพระพายจิ้มนิ้วชี้เข้าหาตัว “ฉันเหรอ!”
แบรดลีย์พยักหน้าหงึกๆ แทนคำตอบ พรพระพายส่ายหน้าหวือ รู้สึกอ่อนอกอ่อนใจ
“ถามจริงๆ เถอะ เมื่อไรคุณจะเลิกยัดเยียดลูกๆ ของคุณมาเป็นลูกฉันสักที ระบบการคำนวณของสมองผิดพลาดหรือไงคะ ฉันไม่เคยท้อง ลูกจะออกมาทางไหนล่ะ”
“ไม่เคยท้อง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีลูกไม่ได้นี่”
พรพระพายตกตะลึงระคนประหลาดใจ เรื่องนี้ชักแปลกๆ เมื่อหันกลับไปเจอแววตาแฝงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ดูมั่นใจของเขา มันทำให้เธอหวนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“หรือว่า...” เสียงหวานพึมพำเบาๆ “ไม่นะ ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้”