บิดาเคยกล่าวกับนางไว้ว่า “เจ้ารู้หรือไม่ว่าพ่อเป็นทาสของแม่เจ้า”
ฟังแล้วช่างโหดร้าย หลิวอันอัน เงยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสาร แต่กลับเห็นแววตาอันอ่อนโยนทอดมองออกไปไกล คล้ายกำลังนึกถึงความทรงจำอันแสนงดงามที่มีแต่ภรรยาอันเป็นที่รัก
ตั้งแต่วันนั้น นางตั้งใจแล้วว่าต้องหา ‘ทาส’ สักคนมาเป็นของนางให้จงได้ ความฝันของนางจะเป็นจริงได้ คือนางต้องหาทางหนีออกจากวัง ไม่ยอมเป็นสนมเฉาตายโดยไม่มีทาสหัวใจอย่างที่ใฝ่ฝัน แต่ยังหนีไม่พ้นกำแพงวัง นางก็ได้พบกับ ‘ทาสหัวใจ’ ในอนาคตเสียแล้ว!
“พี่ชาย เห็นทีว่าข้าคงต้องหั่นร่างท่านเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย ต้องขออภัยด้วย”
หั่นร่าง!
ชายชุดดำที่แกล้งตายอยู่นั้นได้ยินคำว่า ‘หั่นร่าง’ ก็ให้สะท้านขึ้นมาไม่น้อย นี่ถ้าเขายังแกล้งตายอยู่เช่นนี้ คงได้ถูกแยกชิ้นส่วนเป็นแน่ นี่คือสตรีในวังหลังเช่นนั้นหรือ จิตใจโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ยิ่งนัก เหตุใดสตรีที่สมควรนุ่มนวลอ่อนหวานจึงได้ไร้ซึ่งจรรยาบรรณต่อร่างผู้ตายเช่นนี้…
มีดคมเล่มเล็กถูกชักออกมาจากปลอก หลิวอันอันพิจารณาร่างตรงหน้า ดูว่าจะเริ่มจากตรงส่วนไหนก่อนดีเพื่อให้ง่ายต่อการหั่น
“ข้าว่าที่คอก่อนละกัน เส้นเอ็นไม่มากเท่าใดนัก แค่ท่อนกระดูกและกล้ามเนื้อ”
มีดคมถูกยกขึ้นเพื่อจัดการเฉือน นางจ่อเล็งมีดเตรียมวางลง แต่ยังไม่ทันที่ปลายมีดจะโดนผิวของร่างตรงหน้า ข้อมือของนางก็ถูกคว้าเอาไว้ ดวงตาของบุรุษที่นางคิดว่าตายไปแล้วเบิกโพลงขึ้นมา หญิงสาวอ้าปากค้างด้วยความตกใจ จะส่งเสียงร้องออกไปก็ไม่ได้ จะให้อยู่นิ่งๆ อย่างมีสติก็ไม่ได้เช่นกัน ในเมื่อคนที่นางคิดว่าตายไปแล้วจู่ๆ ก็ฟื้นขึ้นมา
มือที่ถือมีดอยู่ถูกจับบิด กลับกลายเป็นว่ายามนี้มีดเล่มนั้นถูกนำมาจ่อที่คอของนางแทน ซวยที่สุดอย่างแท้จริง!
“พาข้าไปรักษา หากคิดตุกติกเจ้าได้ตายอยู่ตรงนี้แน่”
พลาดมาก วันนี้นางพลาดที่สุด นางน่าจะพาเหยาเฉินมาด้วย ไม่เช่นนั้นเรื่องคงไม่เป็นเช่นนี้
“ใจเย็นก่อนท่าน...”