ภูมิภัทร จักรนเรศวงษ์ ทายาทคนโตของมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจส่งออกอันดับหนึ่งของประเทศ ชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตาและฐานะ แต่ต้องมีเหตุให้รับผิดชอบน้องสาวของเพื่อนทรยศด้วยการจดทะเบียนสมรส เพราะเธอคือหนามยอกใจของเขา ภูมิภัทรจึงส่งให้หญิงสาวไปอยู่ไกลหูไกลตา ทว่าเมื่อภรรยาที่เขาประกาศปาวๆ ว่ารังเกียจนักหนา คิดจะตีปีกโบยบินไปซุกซบผู้ชายคนใหม่พร้อมกับขอยื่นใบหย่า มีหรือคนอย่างเขาจะยอม ชายหนุ่มจึงต้องประกาศความเป็นสามีทั้งนิตินัยและพฤตินัยให้รู้กันทั่วว่า ‘นี่แหละเมียเขา ใครอย่าแตะ’
เกวลี ต้องเจ็บปวดกับการรักสามีในนามของเธอเพียงข้างเดียวมานานหลายปี เธอถูกทิ้งร้างให้อยู่แต่ในไร่ส้มราวกับภรรยาบนหอคอย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร เธอก็ยังเป็นได้แค่ผู้หญิงน่ารังเกียจสำหรับเขา หญิงสาวจึงตัดสินใจละทิ้งหอคอยเพื่อไขว่คว้าอิสระและยอมตัดใจจากเขาเสียที ทว่ามันกลับไม่ง่ายอย่างที่หวัง เพราะจอมมารอย่างภูมิภัทรไม่คิดจะปล่อยมือ แถมยังกลับมาทวงคืนความเป็นสามี และกักขังเธอไว้โดยมีเขาเป็นผู้จองจำ!
“ปล่อยฉันนะ”
“ไม่ปล่อย ยังไงฉันต้องคิดค่าเสียหายก่อน เตือนแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าริอ่านทำมารยามาขึ้นเตียงกับฉัน และถ้ารู้ตัวว่าชอบนอนละเมอ ทำไมถึงไม่แต่งตัวให้เรียบร้อย อย่างนี้มันจงใจยั่วกันชัดๆ”
เกวลีใจหายวาบเพราะรู้ว่าเธอกับเขาอยู่ในสภาพที่ล่อแหลมแค่ไหน
‘ไม่น่าลืมใส่บราตอนนอนเลยยัยงาม’
เธอเคยชินกับการนอนคนเดียว จึงไม่ได้ใส่เสื้อชั้นในเพราะรู้สึกอึดอัด
‘แล้วใครจะคิดว่าจู่ๆ จะลอยมานอนอยู่บนอกเขาด้วยสภาพเปลือยหน้าอกกันล่ะ’
“ไหนบอกว่ารังเกียจ ไม่อยากแตะให้เป็นอัปมงคลต่อชีวิตไง ลูกผู้ชายเขาไม่กลับคำกันนะคุณภูมิ ปล่อย”
“ไม่รู้หรือไง บางครั้งคนเราก็ชอบลักลอบแหกกฎ อะไรที่มันท้าทายมักจะหอมหวานเสมอ”
ภูมิภัทรตีหน้าตายพูด เมื่อโอกาสมาถึงแล้ว...มีหรือที่เขาจะยอม
“เธอผิดเองที่คิดยั่วฉันแต่เช้า ทำแล้วอย่าคิดว่าจะรอดไปได้ง่ายๆ ถึงเวลาจ่ายค่าเสียหายแล้ว”
“ไม่...ฮื้อ...”