หรัณย์ ไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กน้อยคนนั้นเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตน แต่หน้าตาที่ถอดแบบเขาราวกับถ่ายสำเนาเป็นหลักฐานทนโท่ชัดเจน ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธว่าเคยเจอกับ เอื้องฟ้า สาวบ้านป่าที่อุ้มลูกมาทวงสิทธิ์ และก็กล้าสาบานเช่นกันว่าไม่เคยแตะต้องเธอ เขามั่นใจว่าตัวเองไม่เคยความจำเสื่อม ถึงขนาดหลงลืมผู้หญิงที่เคยมีสัมพันธ์ด้วย แต่อะไรเล่าที่ทำให้เขานึกไม่ออก ให้ตายเถอะ! ทำไมถึงจำคืนนั้นไม่ได้ มันดีไหม ทุกอย่างผ่านไปอย่างไร หรือจะต้องรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีกครั้ง จะได้หายแคลงใจ!
“เธอคงไม่รู้ตัวว่าเป็นคนที่เก็บอาการไม่เก่งเอาเสียเลย ความจริงเธอก็เป็นคนซื่อๆ ดูไม่มีพิษมีภัย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงกล้าทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้”
“ดิฉันไปทำเรื่องอะไร”
หรัณย์อยากจะปรบมือให้กับท่าทีไม่ประสีประสานั้นเต็มแก่ เพราะนึกทึ่งกับท่าทางงุนงงราวกับไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร
“ก็เรื่องที่เธออ้างว่าฉันเป็นพ่อของเด็ก”
“ก็เป็นคุณจริงๆ นี่คะ”
คำตอบนั้นทำเอาหรัณย์อยากจะแยกเขี้ยวแล้วจับแม่สาวหน้าซื่อเหวี่ยงออกนอกหน้าต่างให้รู้แล้วรู้รอด
“ถ้าเธอยังยืนยันว่าฉันเป็นพ่อเด็กมันก็คงต้องหาข้อพิสูจน์ แต่เธอก็รู้ว่าเสียเวลาเปล่าเพราะมันเป็นไปไม่ได้ คนอย่างฉันกล้าทำกล้ารับ และฉันก็เป็นคนมีสติมากพอที่จะรู้ว่าตัวเองได้ทำอะไรลงไปบ้าง”
“แล้วถ้าคืนนั้นคุณขาดสติละคะ”